บางครั้งสิ่งที่ได้จากการเดินทาง คือการสอนใจเรา คือการสอนให้เรารู้จักตัวเอง เหมือนที่ยิ่งเดินยิ่งไกล วันนี้ ยิ่งไปยิ่งได้เรียนรู้
Friday, May 20, 2011
ร้านSuZuki
ชื่อเต็ม Suzuki Drink and Thai Food
มิได้ค่าโฆษณาใด ใดทั้งสิ้น เป็นร้านอาหารที่พวกเราตัดสินใจเลือกหลังจากมีเงิน Ks อยู่ในมือ เนื่องเพราะเหตุผลแรกเป็นร้านที่อยู่ในระยะเดินจากตึกซากุระตรงไปสุเล ผ่านแนวร้านรวงต่าง ๆ ผ่านโรงหนัง และสะดุดตากับคำว่าอาหารไทย เนื่องจากพี่จิ๊บเป็นคนเห็นว่ามีเมนูเขียนเป็นตัวหนังสือไทยอยู่หน้าร้าน โอเค คนไทยรักชาติ ขณะที่พวกเราเดินเข้ามาเลยเที่ยงเกือบเป็นเวลาบ่ายโมงของนาฬิกาไทย ที่นั่งจึงหาไม่อยากนัก เพราะตัวร้านค่อนข้างแคบตกแต่งในแนวศิลป์นิดหน่อย เดิมคงตั้งใจเป็นร้านเครื่องดื่มมีกาแฟสด SuZukiขาย แต่ไม่ได้ลองสั่ง และฝนงานภาพถ่ายภาพวาดใส่กรอบบ้าง ใส่ซองบ้างประดับร้านอยู่ประปราย ป้ายเขียนข้อความว่า for sale ถามราคากันได้
เมนูในร้านสำหรับอาหารจานเดียวและกับข้าวมีไม่มากนัก มื้อนี้สั่งกะเพราหมู และผัดหมี่ ของพี่ดลลี่ ส่วนเครื่องดื่มน้ำเปล่า และน้ำส้มยี่ห้อสตาร์ หรือโคล่าแล้วชักไม่แนใจ
ระหว่างรอเห็นโต๊ะอื่นมีคนสั่งส้มตำมากิน ฮื่มฮ่ืม ฮ่าฮ่า และบางโต๊ะมีคนมานั่งซดเบียร์เย็น ๆ อาหารอีกอย่างซึ่งเป็นเมนูประจำและมีชื่อทับศัพท์เรียกเป็นชื่อไทยว่าข้าวขาหมู เห็นหาหมูวางนึ่งในหม้อพร้อมใบคะน้าเช่นเดียวกับเมืองไทย สั่งเมนูนี้ก็มีใข่อยู่ในข้าวขาหมู เหมือนกัน
อาหารที่พวกเราสั่งทำให้พ่อครัวต้องปิดประตูสับหมูและคงกันกลิ่นมารบกวนด้วย สักครูเดียวเราก็ได้กระเพาะหมู ไข่ดาว ข้าวเปล่าเสริฟมาพร้อมรับประทานได้เลย ที่นี้ขาดอยู่ก็เป็นน้ำปลา แต่รสชาติผัดกระเพราะทดแทนได้ เลยไม่มีใครเรียกร้องน้ำปลามาเหยาะไข่ดาวเลย
หมี่ผัดของพี่ดลลี่ ก็ดูหน้าตาดีน่ากิน และก็หมดจานทุกอย่าง
ร้านนี้วันมื้อหลังก่อนกลับก็เป็นร้านที่พวกเราแวะมาอีกครั้งพร้อมสั่งเมนูเดิมกัยอีกรอบ ยกเว้นพี่ดลลี่
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
1 comment:
ท่าทางพี่ดลลี่จาหิวนะ อิอิ
แล้วของท่านเจ้าของบล็อกล่ะ หิวโหดมะคะ ^__^
Post a Comment